ไม่ได้ทำภาษีหัก ณ ที่จ่ายนานมากแล้ว พอเริ่มมีขายสินค้าในลาซาด้าจะเอาค่าคอมมิชชั่นที่ถูกลาซาด้าหัก มาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ทางสนง.บัญชีแจ้งกว่าต้องหัก ณ ที่จ่ายลาซาด้าด้วย ไม่งั้นจะเอาค่าคอมมิชชั่นมาเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้ จะยอดมากน้อยแค่ไหนก็ต้องหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย
พอทำจริงๆ เอ..หักเท่าไหร่ ยื่นแบบ ภ.ง.ด.53 หรือ ภ.ง.ด.3 นะชักไม่แน่ใจ เลยเป็นเหตุให้กลับมาทบทวน
- กรณีหัก ณ ที่จ่าย นิติบุคล บริษัท ห้างหุ้นส่วน ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.53
- กรณีหัก ณ ที่จ่าย บุคคลธรรมดา ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.3
- เมื่อหักไว้แล้ว ให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแก่กรมสรรพากร ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป หากตรงกับวันหยุดให้เลื่อนเป็นวันทำการถัดไป เช่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายของเดือน มิถุนายน ให้ยื่นแบบแก่กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 กรกฎาคม
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หักเท่าไหร่
หักเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของค่าใช้จ่าย
- ค่าขนส่ง 1%
- ค่าประกันภัย 1%
- ค่าโฆษณา 2%
- ค่าบริการ-ค่าจ้างทำของ 3%
- ค่าเช่า 5%
อย่างกรณีของลาซาด้ามีค่าธรรมเนียมการรับชำระเงินและค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียมการรับชำระเงินจะถือว่าเป็นค่าบริการจึงจะหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (1 เม.ย.-30 ก.ย.63 กรมสรรพากรประกาศให้หัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 1.5%) และค่าขนส่งหัก 1%
เมื่อเราหัก ณ ที่จ่ายแล้วเราต้องออกหนังสือรับรองภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย ให้แก่ผู้รับเงิน โดยหนังสือรับรองภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย1 ชุดจะมี 4 ชั้น
- ชั้นที่ 1-2 ให้กับผู้รับเงิน
- ชั้นที่ 3 ส่งให้สนง.บัญชีเพื่อให้สนง.บัญชีจัดทำภ.ง.ด.53 หรือ ภ.ง.ด.3 ส่งกรมสรรพกรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- ชั้นที่ 4 เราเก็บไว้เป็นหลักฐานและใช้ตรวจสอบกับภ.ง.ด.53 หรือ ภ.ง.ด.3 ที่สนง.บัญชียื่นให้เรา
หลักๆ ของภาษีหัก ณ ที่จ่ายมีเท่านี้เองค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมยื่นแบบภายในกำหนดเวลา ถ้าเลยกำหนดมีเบี้ยปรับ เงินเพิ่มนะคะ
สนใจหนังสือรับรองภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายเราก็มีขายนะ รายละเอียดเพิ่มเติ่มคลิกที่นี่ค่ะ